ลูโดวิก ชูลี เชื่อว่า ลิโอเนล เมสซี่ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าร่วมทีมเปแอสเช

     เมื่อพูดถึงประเด็นการย้ายมาเล่นยังลีกเอิงของเมสซี่ ล่าสุดอดีตปีกชาวฝรั่งเศสอย่าง ลูโดวิก ชูลี ได้อธิบายว่าการขาดตัวเลือกอื่นๆที่เปแอสเชตั้งธงไว้เพียงแค่เมสซี่ทำให้กองหน้าชาวอาเจนไตน์ย้ายมาจากบาร์เซโลนาในที่สุดเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ผู้ชนะรางวัลบัลลงดอร์เจ็ดสมัยย้ายออกจากสโมสรในวัยเด็กของเขาหลังจากที่อยู่กับทีมมานาน 17 ปีเพื่อเข้าร่วมสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โดยท่าทีแรกเมื่อก่อนเริ่มต้นฤดูกาล เดิมทีแข้งชาวอาร์เจนตินาคาดว่าจะต่อสัญญาและอยู่ที่บาร์ซ่าต่อไป อย่างไรก็ตาม วิกฤตทางการเงินของบาร์เซโลนาทำให้สโมสรไม่สามารถจ่ายค่าเหนื่อยภายใต้กฎการเงินของลาลีกาได้ทำให้สโมสรไม่สามารถเสนอการต่อสัญญาให้กับเขาในเวลาที่เหมาะสม 

     และนั่นหมายความว่าเมสซี่ไม่มีเวลามากพอที่จะหาทีมใหม่ให้ทันในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล และนี่คือสิ่งที่ชูลีพูดซึ่งเขาอ้างว่าบาร์ซ่าเองบังคับให้เมสซี่ย้ายไปเปแอสเชในทางอ้อม“ใครกันที่จะจ่ายเงินให้เขาได้มากถึงขนาดนั้น ซิตี้เพิ่งคว้าตัวกรีลิชไป 100ปอนด์หมาดๆ ผมเชื่อว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนหนึ่งเดือน กวาร์ดิโอล่าก็คงต้อนรับเขาด้วยพรมแดง โอเคถ้าตัดซิตี้ออกไปจะมีใครจะจ่ายได้อีก ก็คงต้องเป็นปารีสเท่านั้นที่สามารถจ่ายได้ คุณลองนึกภาพว่าเมื่อลีโอไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงนั้นและทางปารีสเริ่มรู้ว่าเขามีปัญหา คิดว่านัสเซอร์จะไม่โทรหาเขาเหรอ” เขายังอธิบายต่อไปว่า “แน่นอน ทางปารีสโทรมา พวกเขาเริ่มตกลงกันล่วงหน้าแล้ว ลีโอคิดว่าบาร์ซ่าจะเสนอให้ลดเงินเดือนลง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ทางปารีสพวกเขาไม่ได้เสนอแบบนั้น ในเปแอสเช เมสซี่รู้จักทั้งเนย์มาร์, ปาเรเดส, ดิ มาเรีย ซึ่งคุณคิดว่าเขาจะไปไหนในท้ายที่สุด” 

     การย้ายเข้ามาของเมสซี่นั้นส่งผลถึงทั้งเอ็มปัปเป้และเนย์มาร์เช่นกัน พวกเขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร โดยทำได้ 24 ประตู 17 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 34 นัดรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ ซึ่งสิ่งนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเมสซี่ไม่มากก็น้อยเนื่องจากเมสซี่ก็ยังมีช่วงที่โชว์ฟอร์มไม่ออกและยิงได้ทั้งหมด 3 ประตูกับ 10 แอสซิสต์จาก 13 เกมหลังสุดที่ลงเล่น 

      เขาอาจต้องปรับปรุงจำนวนการถล่มประตูของเขาในอนาคตข้างหน้าถ้าหากว่าเขาต้องการเป็นศูนย์กลางของทีมให้ได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระยะหลังดูดีขึ้นฟอร์มการเล่นของเขามาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เปแอสเชมีคิวจะเล่นกับเรอัลมาดริดในเลกที่สองของรอบ16ทีมในแชมเปี้ยนส์ลีกที่ซานติอาโก เบร์นาเบวสัปดาห์หน้า และพวกเขามีข้อได้เปรียบคือหนึ่งประตูของเอ็มบัปเป้ในเลกแรก ซึ่งจากการพัฒนาฟอร์มและการเล่นดีอย่างสม่ำเสมอของกองหน้าชาวฝรั่งเศสในฤดูกาลนี้ทำให้เมสซี่อาจยังไม่ได้ถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางในแดนหน้าในตอนนี้ อย่างไรก็ตามด้วยบารมีของเมสซี่ที่มีต่อเกมและอะไรหลายๆอย่างในทีมนี้ยังคงไม่มีใครเทียบได้ และเปแอสเชหวังว่าข้อได้เปรียบนี้จะช่วยเอื้อให้ทีมได้ผลการแข่งขันที่ดีโดยเฉพาะในเส้นทาง UCL และเป้าหมายกลับมาครองแชมป์ลีกเอิงได้อีกครั้ง